วันแรก กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
21.30 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ J สายการบินไทย เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก ด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
วันที่สอง กรุงเทพฯ – กรุงโรม – ชมเมือง – นครวาติกัน – มอนเตคาตินี่ (อิตาลี) 00.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยเที่ยวบินที่ TG 944 06.30 น. เดินทางถึง สนามบินลีโอนาร์โด ดาร์วินชี่ หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำคณะเดินทางโดยรถโค้ชสู่ กรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลี ซึ่งมีอดีตอันยิ่งใหญ่และเกรียงไกรในยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจเมื่อราวกว่า 2,000 ปีที่ผ่านมา นำคณะเข้าสู่ นครวาติกัน รัฐอิสระที่ปกครองตนเองเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ชมความงดงามตระการตาของ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลัก “เพียต้า” ผลงานของศิลปินเอก ไมเคิลแองเจโล เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย เบอร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลี และยังเป็นต้นแบบพระที่นั่งอนันตสมาคมของเมืองไทยเราอีกด้วย ได้เวลานัดหมายนำคณะชม สนามกีฬาโคลอสเซียม โบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน ชม ประตูชัยคอนแสตนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม ชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่ โรมันฟอรั่ม, จัตุรัสเวเนเซีย, ระเบียงปาลาสโซสถานที่ใช้กล่าวสุนทรพจน์ของมุสโสลินีในโอกาสต่างๆ ผ่านชม อนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น พระบิดาของชาวอิตาลี เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำคณะชม น้ำพุเทรวี่ จุดกำเนิดของเสียงเพลง “ทรีคอยน์ออฟเดอร์ฟาวด์เท่น” ที่โด่งดังในอดีตซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่าหากใครได้โยนเหรียญอธิษฐานไว้ ก็จะได้กลับมาที่กรุงโรมอีก จากนั้นเชิญท่านอิสระเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ที่ย่าน “บันไดสเปน” แหล่งพักผ่อนของชาวอิตาลีซึ่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ ได้เวลานัดหมายนำคณะเดินทางสู่ เมืองมอนเตคาตินี่ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเชิงเขา Monte Pisano ในแคว้น Tuscany ระหว่างเส้นทางผ่านเมืองน้อยใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งในอดีตเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวอีทรัสกัน
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ Hotel Minerva Montecatini หรือระดับเดียวกัน
วันที่สาม มอนเตคาตินี่ – ปิซ่า – เวนิซ – เมสเตร้ เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำคณะเดินทางสู่ เมืองปิซ่า สถานที่ตั้งของ หอเอนปิซ่า สิ่งมหัศจรรย์หนึ่งในเจ็ดของโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1174 สถาปัตยกรรมที่งดงามซึ่งในอดีตเคยเป็นสถานที่ที่นักวิทยาศาสตร์เอกของโลก ศาสตราจารย์ กาลิเลโอ ได้ค้นพบทฤษฎีเรื่องแรงโน้มถ่วงของโลก เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำคณะเดินทางขึ้นสู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี ไปยัง เมืองเวนิซ-เมสเตร้ ราชินีแห่งทะเลเอเดียตริก เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ Hotel Russott หรือระดับเดียวกัน
วันที่สี่ เวนิซ – เมสเตร้ – อินน์สบรูก (ออสเตรีย) เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม เดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเชโต้ จากนั้นลงเรือเดินทางสู่ เกาะเวนิซ เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน” มีเกาะเล็กใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง เดินทางสู่ เกาะซานมาร์โค ศูนย์กลางของนครเวนิซ ผ่านชม สะพานถอนหายใจ ที่เชื่อมต่อระหว่าง “Doge Palace” ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิซในอดีต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้นอีกด้วย ชม จัตุรัสเซนต์มาร์ค ที่มีโบสถ์เซนต์มาร์คเป็นฉากหลัง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ อิสระเลือก ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเวนิซตามอัธยาศัย อาทิ เครื่องแก้ว มูราโน่ ต้นตำรับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบ และคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก (พิเศษสุด! ท่านใดมีความประสงค์จะล่องเรือกอน โดล่า (ใช้เวลา 30 นาที) กรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์ล่วงหน้า เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส สู่ คลองใหญ่ (Grand Canal) คลองที่กว้างที่สุดของเกาะ และงานก่อสร้างที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะด้านสถาปัตยกรรมที่ สะพานเรียลอัลโต้ (ศิลปินเอกไมเคิลแองเจโล))ได้เวลานัดหมายนำคณะลงเรือเดินทางกลับสู่ฝั่ง เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย เดินทางสู่ อินน์สบรูก เมืองท่องเที่ยวในแคว้นทิโรล ที่มีอายุกว่า 800 ปี เคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าบนถนนสายโรมัน Via Cuaudla Augusta ตั้งอยู่ใจกลางเทือกเขาแอลป์ซึ่งเป็นแหล่งสกีเป็นที่รู้จักกันดีของชาวยุโรป จนได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวถึง 2 ครั้ง นำคณะสู่ ถนนมาเรียเทเรซ่า ถนนสายหลักของเมืองอินน์สบรูก เชื่อมระหว่างเขตเมืองเก่ากับย่านช้อปปิ้งสมัยใหม่ ตรงกลางถนนเป็นที่ตั้งของ เสาอันนาซอยแล (เสานักบุญแอนน์) ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อรำลึกถึงการถอนกองกำลังทหารบาวาเรีย ออกไปจากเมือง แล้วเข้าสู่ ย่านเมืองเก่า ที่ยังคงสภาพและบรรยากาศของยุคกลางได้เป็นอย่างดี อาคารบ้านเรือนที่มีอาร์คเดคชั้นล่างและมีมุขยื่นออกมาที่ชั้นบน แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมแบบโกธิคตอนปลาย และเรอเนสซองส์ บริเวณนี้คือที่ตั้งของ หลังคาทองคำ ที่สร้างในปี ค.ศ.1500 สมัยจักรพรรดิแม็กซิมิเลี่ยนที่ 1 หลังคามุงด้วยแผ่นทองแดงเคลือบทองสว่างไสว จากนั้นชมโรงแรมเก่าแก่ประจำเมือง โรงแรมโกลเดนเนอร์แอดเลอร์ ซึ่งเคยใช้ในการต้อนรับเจ้านายในราชวงศ์และบุคคลชั้นสูงจากต่างแดนหลายท่าน ตามพระนามและรายชื่อที่จารึกไว้ในศิลาด้านหน้าของโรงแรม จากนั้นอิสระเลือกซื้อเครื่องแก้วเจียระไนชั้นดีของ Swarofski ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ Hotel Innsbruck หรือระดับเดียวกัน
วันที่ห้า อินน์สบรูก – วาดู๊ซ (ลิคเท่นชไตน์) – ลูเซิร์น (สวิตเซอร์แลนด์) เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม เดินทางผ่าน นครวาดู๊ซ นครหลวงน่ารักของ รัฐอิสระลิคเท่นชไตน์ ซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ ที่มีพรมแดนติดกับสวิส หาซื้อแสตมป์ที่มีสีสันสวยงามเหมาะสำหรับนักสะสมและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย นำคณะเดินทางต่อไปยัง ลูเซิร์น เมืองตากอากาศที่โด่งดังของสวิส ตั้งอยู่ริมทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า เวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ อันหมายถึงทะเลสาบสี่พันธรัฐ นำคณะไปถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์สิงโตแกะสลักริมหน้าผา สัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ และเสียสละที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติ แด่ทหารสวิสที่เสียชีวิตจากการปกป้องพระราชวังตุยเลอลีสในฝรั่งเศส และชม สะพานคาเปล สะพานไม้เก่าแก่ของเมืองที่มีอายุกว่า 600 ปี ทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่มีร้านตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาชื่อดัง อาทิเช่น บุคเคอเรอร์, กือเบอลิน, เอ็มบาสซี่ ร้านขายของที่ระลึกร้านช็อคโกแล็ต และช้อปปิ้งสินค้าชั้นดีที่มีชื่อเสียงตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ Hotel Astoria หรือระดับเดียวกัน
วันที่หก ลูเซิร์น – ยอดเขาทิตลิส – ดิจอง – ปารีส (ฝรั่งเศส) เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม คณะเดินทางสู่ เมืองแองเกิลเบิร์ก ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าโรแตร์ ชมทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ บนกระเช้าที่หมุนได้ 360 องศา สู่ ยอดเขาทิตลิส ที่มีความสูง 3,028 เมตร ปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดทั้งปี เป็นยอดเขาที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นสกีเป็นจำนวนมาก ชม ถ้ำน้ำแข็งพันปี สนุกสนานกับการเล่นหิมะและอิสระชมทิวทัศน์เหนือยอดเขาสูงเสียดฟ้าตามอัธยาศัย เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพาโนรามาบนยอดเขา บ่าย เดินทางลงจากยอดเขา จากนั้นเดินทางผ่าน เมืองบาเซิล พรมแดนของสวิสกับฝรั่งเศส เมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญของสวิส ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “หัวเข่าของแม่น้ำไรน์” มีความเจริญมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ข้ามแดนสู่ เมืองดิจอง ประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดี ผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่แหล่งผลิตมัสตาร์ดชื่อดัง อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ชั้นเลิศอีกด้วย ผ่านชมอาคารบ้านเรือนสมัยเรอเนสซองส์ โบสถ์และวิหารเก่าแก่ในสมัยยุคกลาง ซึ่งมีจุดเด่นคือ การมุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีแดงสด จัดเรียงเป็นลวดลายงดงาม ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำคณะเดินทางโดยรถไฟด่วน TGV (จรวดทางเรียบที่มีความเร็วสูงสุดถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) สู่ นครปารีส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ถึงสถานี Gare Du Lyon นครปารีส เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส นำท่านเข้าสู่ที่พัก
พักค้างคืน ณ Hotel Novotel Porte D’Italie หรือระดับเดียวกัน
วันที่เจ็ด ปารีส -พระราชวัง แวร์ซายส์ – ชมเมือง เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม เดินทางไปยัง เมืองแวร์ซายส์ อดีตเมืองหลวง และศูนย์กลางการเมืองการปกครอง ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 อยู่ห่างจากปารีสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 20 กิโลเมตร เข้าชม พระราชวังแวร์ซายส์ สัมผัสความยิ่งใหญ่อลังการของพระราชวังที่ได้รับการยกย่องว่าใหญ่โตมโหฬารและสวยงามที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการตกแต่งไว้อย่างหรูหราวิจิตรบรรจง ชมความงดงามของห้องต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตกแต่งประดับประดาด้วยภาพเขียนต่างๆ และเฟอร์นิเจอร์ชั้นดี อาทิเช่น ห้องอพอลโล, ห้องนโปเลียน, ห้องบรรทมของราชินี, ห้องโถงกระจกท้องพระโรง, ห้องสงครามและสันติภาพ ซึ่งรวบรวมเรื่องราวและความเป็นมาในอดีตอันยิ่งใหญ่ของพระราชวังแห่งนี้ อิสระถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณด้านหน้าอุทยานอันร่มรื่นและหลากหลายด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสีสันสวยงาม เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บ่าย เที่ยวชม มหานครปารีส นครหลวงซึ่งได้ชื่อว่าเป็นศูนย์รวมแห่งแฟชั่นชั้นนำของโลก ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำแซนต์ สู่ เกาะอิลเดอลาซิเต้ ศูนย์กลางของมหานครปารีส ผ่านชมด้านหน้าของ โบสถ์นอร์ทเทรอดาม สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิคที่ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีอย่างงดงาม ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับพิธีราชาภิเษกนโปเลียนขึ้นครองราชย์ มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี สู่ จัตุรัสทรอคาเดโร เชิญถ่ายภาพ หอไอเฟิล เป็นที่ระลึกจากมุมกว้าง ซึ่งเป็นจุดที่สวยที่สุดและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ชมความยิ่งใหญ่ของ ประตูชัย สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่จักรพรรดินโปเลียน แวะถ่ายภาพที่ระลึกบริเวณลาน จัตุรัสคองคอร์ท สถานที่ซึ่งเคยเป็นลานประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมาเรียอังตัวเนต ผ่านชม ถนนชองป์เซลิเซ่ ถนนแฟชั่นที่มีชื่อเสียงของปารีส จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ ร้านสินค้าปลอดภาษี (Duty Free Shop) เพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าปลอดภาษีในราคาถูก อาทิเช่น เครื่องสำอาง, น้ำหอม, เครื่องประดับ, กระเป๋าหนังและเครื่องหนังอื่นๆ มากมาย รวมทั้งเสื้อผ้าแบรนด์เนมจากฝรั่งเศส จากนั้นเป็นเวลาอิสระให้คณะได้ช้อปปิ้งสินค้าที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังเช่น แพรงตองส์ หรือ แกลลอรี่ ลาฟาแยตต์ ตามอัธยาศัย ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักค้างคืน ณ Hotel Novotel Porte D’Italie หรือระดับเดียวกัน (รายการแถมพิเศษ! เดินทางสู่ ท่าเรือบาตามูซ ริมแม่น้ำแซนต์เพื่อล่องเรือชมสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมือง ริมสองฝั่งแม่น้ำแซน ผ่านชมความงดงามของโบราณสถานและอาคารเก่าแก่ สร้างขึ้นตามสไตล์ของศิลปะเรอเนสซองส์ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ดูแลเป็นอย่างดี ตลอดทางท่านจะได้ความประทับใจกับความสวยงามของทัศนียภาพที่ร่วมกันสรรสร้างให้นครปารีส ชื่อว่าเป็นนครที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก)
หมายเหตุ ในกรณีที่น้ำในแม่น้ำแซนต์ ขึ้นสูงกว่าปกติหรือมีเหตุการณ์สุดวิสัย เช่น การนัดหยุดงาน เป็นต้น รายการล่องแม่น้ำแซนต์อาจจะไม่สามารถดำเนินการได้
วันที่แปด กรุงปารีส – กรุงเทพฯ เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม เชิญท่านอิสระพักผ่อน เดินเล่นชมนครปารีสยามเช้าตามอัธยาศัย 10.00 น. นำคณะเดินทางสู่ สนามบินชาร์ล เดอ โกลด์
13.45 น. เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯโดยเที่ยวบินที่ TG 931
วันที่เก้า กรุงเทพมหานคร
06.30 น. คณะเดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดี…..
หมายเหตุ กำหนดการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะยึดถือความปลอดภัย ตลอดจนผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ